เคล็ดไม่ลับ 3 วิธีลดบุหรี่ บรรเทาไอ ปัญหาทางเดินหายใจอย่างได้ผล

ภัยจากบุหรี่ ไม่เพียงเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคร้ายอย่างโรคมะเร็งเท่านั้น แต่ยังสามารถส่งผลถึงระบบหายใจทั้งหมดได้ด้วย ซึ่งหากใครที่กำลังเป็นโรคภูมิแพ้อยู่ หรือมีแนวโน้มของอาการไอ จาม คัดจมูก ระยะเริ่มแรกของภูมิแพ้ ก็ควรหลบให้ห่างจากบุหรี่ไปเลย เพราะไม่ว่าจะสูบเอง หรือได้กลิ่น ทั้งบุหรี่มือหนึ่งและบุหรี่มือสองก็ถือว่ามีอันตรายใกล้เคียงกัน ดังนั้นเรามาลดบุหรี่ด้วยวิธีง่าย ๆ กันดีกว่าค่ะ

เลิกบุหรี่ทำไม...ยาก
ในการเลิกบุหรี่นั้นต้องการทั้ง ‘พลังใจ’ และ ‘พลังกาย’ เพราะในทางปฏิบัติ หลายคนมักพยายามทำตามสเต็ปการเลิกบุหรี่ไปเรื่อย ๆ แต่หลายครั้งก็กลับเจออุปสรรคในด้านใจของตัวเอง นั่นเพราะการสูบบุหรี่ทำให้ร่างกายติดสารที่เรียกว่า ‘นิโคติน’ หลายครั้งผู้ที่เลิกบุหรี่พบว่าตนหงุดหงิด ฉุนเฉียว คิดอะไรไม่ค่อยออกหากไม่ได้กลับไปสูบบุหรี่อีกครั้ง แม้ว่าการสูบนั้นจะทำให้สุขภาพทรุดโทรมลง ปากเหม็น ตัวเหม็น ไอระคายเคืองในหลอดลม เป็นต้น

บุหรี่กับภูมิแพ้
ในควันบุหรี่มีสารเคมีมากกว่า 4,000 ชนิด สารเคมีเหล่านี้มีจำนวนมากที่เป็นสารพิษ และไม่ต่ำกว่า 42 ชนิดเป็นสารก่อมะเร็ง โดยร้อยละ 10 เป็นอณูเล็ก ๆ ของสารต่าง ๆ ที่สำคัญและอันตรายที่สุดคือ นิโคตินและทาร์ ซึ่งมีคุณสมบัติกระตุ้นประสาท ส่วนอีกร้อยละ 90 เป็นก๊าซชนิดต่าง ๆ ก๊าซที่อันตรายที่สุด คือ คาร์บอนมอนอกไซด์ การสูบบุหรี่จะไปกระตุ้นหลอดลม จึงทำให้หลอดลมหลั่งของเหลวเข้มข้นมาอุดตันตามท่อทางเดินหายใจ เป็นสาเหตุให้การขจัดสิ่งแปลกปลอมของปอดพบอุปสรรค และก๊าซคาร์บอนไดนอกไซด์จะไปขัดขวางการลำเลียงก๊าซออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย จึงทำให้อวัยวะต่าง ๆ ขาดออกซิเจน ฉะนั้นการสูบบุหรี่จึงมักทำให้ไอมีเสมหะมาก เกิดโรคหอบหืด หลอดลมและปอดอักเสบได้ง่าย จากการทดสอบพบว่า ในร่างกายของผู้สูบบุหรี่จะมี lgE สูงกว่าผู้ที่ไม่ได้สูบบุหรี่ ซึ่งเมื่อร่างกายมี lgE สูง โอกาสที่โรคภูมิแพ้จะกำเริบก็มากตามไปด้วย ฉะนั้นผู้ที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้จึงควรงดสูบบุหรี่

แล้วจะเลิกบุหรี่อย่างไร

1. ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
   หากมีอาการอยากสูบบุหรี่ล่ะก็ แนะนำให้ออกกำลังกาย มีงานศึกษาหลายชิ้น บอกว่าแม้แต่การออกกำลังกายแค่เวลาสั้น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเต้นแอโรบิก สามารถช่วยลดอาการอยากบุหรี่ได้ แอโรบิก ทำให้เหงื่อออก ต้องหายใจแรงขึ้น หัวใจเต็นเร็วขึ้น ส่งผลให้หัวใจและปอดแข็งแรง และยังมีการออกกำลังกายอื่น ๆ ที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากเลิกบุหรี่ อย่างเช่น การเดิน ว่ายน้ำ การวิ่ง การเต้นรำ ปั่นจักรยาน และชกมวย ทั้งนี้ ระหว่างการออกกำลังกาย ไปจนถึงหลังออกกำลังกาย 50 นาที อาการอยากบุหรี่จะลดลง รวมถึงหลีกเลี่ยงสถานที่ หรือช่วงระยะเวลาที่เคยสูบบุหรี่อยู่เป็นประจำ เพราะความเคยชินเหล่านั้น อาจจะเป็นสาเหตุทำให้หวนกลับไปสูบบุหรี่อีกครั้ง ลองหาสถานที่ใหม่ ๆ ก็ช่วยได้
2. ปรับพฤติกรรมการกิน
   การดื่มน้ำก็เป็นตัวช่วยที่ดีเช่นกัน คนที่เลิกบุหรี่ควรดื่มน้ำไม่ต่ำกว่าวันละ 10 แก้ว หรือปริมาณ 2 ลิตรต่อวัน เพราะน้ำจะเป็นตัวช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายและจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้น นอกจากนั้นควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภท เผ็ด เค็ม มัน หวาน เพราะอาหารประเภทเหล่านี้ก็เป็นตัวกระตุ้นให้ผู้สูบอยากสูบบุหรี่เช่นกัน ในช่วงที่เลิกบุหรี่ควรรับประทานผักผลไม้ โดยเฉพาะผลไม้รสเปรี้ยว อย่างการนำมะนาวมาเป็นตัวช่วย แนะนำให้หันมะนาวทั้งเปลือกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่กล่องพกติดตัวไว้ เมื่อมีความรู้สึกอยากสูบบุหรี่ขึ้นมาก็หยิบมะนาวขึ้นมาอมและขณะเวลาอมควรอมช้า ๆ และเคี้ยวเปลือกมะนาวแล้วกลืน การทำเช่นนี้จะช่วยได้ เพราะรสขมของผิวมะนาวจะช่วยทำให้รู้สึกขมปากขมคอ จนไม่อยากสูบบุหรี่
3. ปรับความคิด
   การย้ำเตือนตนเอง หากคิดที่จะสูบบุหรี่ขึ้นเมื่อไหร่ ก็ขอให้ย้ำกับตนเองอยู่เสมอว่า ที่เลิกนั้นเพื่ออะไร และให้ทำตามเป้าหมายการเลิกบุหรี่ของตนเองตามที่ตั้งใจไว้ให้ดีที่สุด การเลิกบุหรี่ต้องอาศัยกำลังใจ ความเข้มแข็ง และตั้งใจจริง เพราะบุหรี่ติดง่าย เลิกยาก แต่ไม่มีใครทำไม่ได้ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ใจ การที่เรามีความคิดที่จะเลิกบุหรี่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และถ้าคุณเป็นผู้หนึ่งที่คิดจะเลิกบุหรี่ ลองปฏิบัติตามคำแนะนำนี้ดู แล้วคุณจะรู้ว่า ‘จิตใจ’ ที่เข้มแข็ง เมื่อรวมกับ ‘วินัย’ ที่ดี ก็เกิดผลลัพธ์ที่ดีได้

สุดท้ายนี้สำหรับใครที่กำลังพยายามลด ละ เลิก บุหรี่ อยู่ในช่วงที่ร่างกายปรับตัว ก็มักเกิดอาการ ไอ คัน ระคายคอตามมา อย่าลืมนึกถึงตัวช่วยดี ๆ ‘อควา มาริส’ จากสารสกัดน้ำทะเลเอเดรียติก สามารถบำบัดอาการโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่จำกัดระยะเวลา และสามารถใช้ได้หลายครั้งต่อวัน ที่สำคัญยังสามารถใช้ร่วมกับยารับประทานหรือยาที่ออกฤทธิ์กับเยื่อบุจมูกโดยเฉพาะได้อีกด้วย จึงเหมาะที่จะเป็นผู้ช่วยในชีวิตประจำวันที่สุด

 

Cr. สสส., Honestdocs