การล้างจมูก สำหรับเด็กเล็ก

การล้างจมูก สำหรับเด็กเล็ก


วิธีล้างจมูกทารก ล้างจมูกยังไงลูกไม่สำลัก

หลายท่านรู้จักการล้างจมูกแต่ไม่กล้าทำเพราะกลัวจะเป็นอันตราย วันนี้หมอมี วิธีล้างจมูกทารก ดูดน้ำมูก อย่างปลอดภัย ในทารกมาฝากกันค่ะ


การล้างจมูกในทารก สามารถทำได้ด้วยวิธีใดบ้าง

การล้างจมูก กำจัดน้ำมูกในทารก มีด้วยกัน หลากหลายวิธี ตามปริมาณน้ำมูก และอายุของทารก ได้แก่

  • การหยอดน้ำเกลือ ทำได้โดยหยอดน้ำเกลือ (Normal saline) เข้าไปในรูจมูก ข้างละ 2-3 หยด เพื่อให้น้ำมูกที่เหนียวข้นและแห้งติดจมูกอ่อนตัวลง ไม่แห้งกรัง เหมาะกับเด็กเล็กที่มีปริมาณน้ำมูกไม่มาก โดยหลังจากหยอดน้ำเกลือแล้ว หากมีปริมาณน้ำมูกน้อยควรเช็ดจมูก เอาน้ำมูกออกด้วยไม้พันสำลี แต่หากมีปริมาณน้ำมูกมาก ควรดูดน้ำมูกออก ด้วยลูกยางแดงหรือเครื่องดูดต่อกับอุปกรณ์ดูดน้ำมูก
  • การพ่นจมูก เป็นการกำจัดน้ำมูก โดยใช้อุปกรณ์พ่นน้ำเกลือแบบสเปรย์ เหมาะกับเด็กเล็กที่มีปริมาณน้ำมูกน้อย ไม่เหนียวข้นมาก มีข้อดีคือสามารถพกพาไปในที่ต่างได้สะดวก
  • การล้างจมูกด้วยกระบอกฉีดยา เป็นการล้างจมูกที่สามารถทำได้โดยใช้น้ำเกลือปริมาณมาก จึงเหมาะกับการกำจัดน้ำมูกปริมาณมากที่ติดอยู่ในโพรงจมูก แบ่งตามอายุได้เป็น 2 วิธีการคือ


เด็กทารกอายุน้อยกว่า 6 เดือน หรือมากกว่า 6 เดือนแต่ไม่ร่วมมือในการล้าง มีขั้นตอนดังนี้

  1. ให้เด็กนอนในท่าศีรษะสูง เพื่อป้องกันการสำลัก
  2. สอดปลายกระบอกฉีดยาเข้าไปในรูจมูกข้างที่จะล้าง โดยให้ปลายกระบอกฉีดยาชิดด้านบนรูจมูก
  3. ค่อย ๆ ฉีดน้ำเกลือเข้าไปในจมูกครั้งละประมาณ 1 - 5 ซีซี หรือปริมาณมากที่สุดเท่าที่เด็กจะทนได้
  4. ใช้ลูกยางแดงดูดน้ำมูกในจมูกออก


หมายเหตุ

  • หากสวมจุกล้างจมูกไว้ที่ปลายกระบอกฉีดยา ก็จะสามารถเพื่อป้องกันปลายกระบอกฉีดยาทิ่มที่ผนังกั้นจมูกได้ ทำให้ล้างจมูกได้ง่ายขึ้น
  • การล้างจมูกด้วยขวดบีบขนาดใหญ่ ไม่แนะนำให้ใช้กับเด็กทารก เพราะมีแรงดัน และปริมาณน้ำเกลือเยอะ อาจสำลักได้ง่าย
  • การล้างจมูกเด็กเล็กวัยทารก ควรใช้กระบอกฉีดยาขนาดเล็กไม่เกิน 5 ซีซี ปริมาณน้ำเกลือน้อย เว้นช่วงให้เด็กหายใจ เพื่อป้องกันไม่ให้สำลัก


การล้างจมูกในทารกก่อให้เกิดอันตรายหรือไม่

อันตรายจากการล้างจมูกพบได้น้อยมาก ภาวะแทรกซ้อนที่มีรายงานจากการล้างจมูก ยกตัวอย่าง อาเจียนหรือสำลัก หรือเชื้อโรคเข้าไปในโพรงไซนัส สามารถป้องกันได้โดยการล้างจมูกอย่างถูกวิธี ในช่วงที่ท้องว่าง คือ ก่อนทานอาหาร หรือหลังทานอาหารอย่างน้อย 2 ชั่วโมงขึ้นไป

ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่พบได้ เช่น เลือดกำเดาไหล ปวดหู หูอื้อ และหน้ามืด จะเกิดในกรณีที่สั่งน้ำมูกแรง ๆ จึงป้องกันได้โดยไม่สั่งน้ำมูกแรงจนเกินไป อาการแสบจมูกอาจพบได้บ้างแต่มักไม่รุนแรง นอกจากนี้อาจมีโอกาสติดเชื้อได้หากอุปกรณ์ ไม่ได้ล้างสะอาด น้ำเกลือเปิดทิ้งไว้นานเกินไปค่ะ

 

Cr. Theasianparent

 

Recent Post

icon-%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b9%87%e0%b8%9a-aqua-maris-05-9-598icon-%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b9%87%e0%b8%9a-aqua-maris-05-9-599icon-%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b9%87%e0%b8%9a-aqua-maris-05-9-5910icon-%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b9%87%e0%b8%9a-aqua-maris-05-9-5911icon-%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b9%87%e0%b8%9a-aqua-maris-05-9-5912icon-%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b9%87%e0%b8%9a-aqua-maris-05-9-5913icon-%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b9%87%e0%b8%9a-aqua-maris-05-9-5914

Sharing

Facebooktwitterredditpinterestlinkedinmail

Follow Us

Facebooktwitterlinkedinrssyoutube