วิธีการขับเสมหะในปอดและลำคอ

ฤดูหนาวเป็นฤดูแห่งการเป็นหวัดและไข้หวัดใหญ่ ซึ่งทำให้เกิดเสมหะและอีกโรคหนึ่งที่เกิดขึ้นบ่อยในช่วงฤดูนี้คือ โรคเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ ซึ่งก่อให้เกิดการสะสมของเสมหะเป็นจำนวนมาก เรามาจัดการกับปัญหาเหล่านี้ให้ดียิ่งขึ้นและป้องกันภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ โดยใช้เคล็ดลับและวิธีรักษาตามธรรมชาติเพื่อกำจัดการอุดกั้นของเสมหะ

การมีเสมหะจะเพิ่มความเสี่ยงต่ออาการหรือโรคต่าง ๆ ได้แก่

1. การเกิดการอุดกั้นในลำคอและอุดกั้นในปอด
2. การไอแบบมีเสมหะจะมีอาการแย่ลงในตอนกลางคืน โดยเฉพาะตอนที่นอนราบบนเตียง
3. การคั่งค้างและการอุดตันของเสมหะ
4. โรคไซนัสอักเสบ
5. การติดเชื้อฉวยโอกาสจากแบคทีเรีย (โรคปอดบวม โรคหลอดลมอักเสบ)
6. ทำให้หายใจได้ตื้น ๆ
7. ความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดต่ำ
8. อาการเหนื่อยและอ่อนเพลียจากการออกแรงเพียงเล็กน้อย

วิธีการกำจัดการคั่งค้างของเสมหะอย่างมีประสิทธิภาพ
นักกายภาพบำบัดระบบทางเดินหายใจสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีไอและการขับเสมหะเพื่อบรรเทาความรู้สึกอึดอัดและเพิ่มประสิทธิภาพของการเพิ่มปริมาณออกซิเจนในร่างกายของคุณได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถลองทำตามเคล็ดลับและการรักษาตามธรรมชาติเพื่อกำจัดเสมหะที่มากเกินไป

เคล็ดลับในการกำจัดการคั่งค้างของเสมหะ

• การเพิ่มความชื้นในห้องจะทำให้เสมหะเหนียวน้อยลง
• การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยขับเสมหะออกมาได้
• ใช้ยาหยอดจมูกที่ทำจากน้ำทะเลธรรมชาติ การทำความสะอาดช่องจมูกจะช่วยให้คุณหายใจโล่งขึ้น ระมัดระวังการใช้ยาพ่นจมูกที่อ้างว่า “ช่วยให้หายใจดีขึ้น” เพราะมักจะมีส่วนประกอบของยาที่ทำให้เส้นเลือดหดตัว ซึ่งสามารถนำไปสู่การเสพติดและทำให้เกิดการคั่งบวมของเยื่อจมูกมากขึ้น ดังนั้นควรใช้ตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น โดยแพทย์จะระบุว่าควรใช้เป็นระยะเวลานานเท่าไหร่
• การอังหน้ากับไอน้ำร้อนผสมเกลือจะช่วยเปิดทางเดินหายใจและขับเสมหะออกมา
• ระบายอากาศในบ้านหรือที่ทำงาน ฝุ่นละอองหรืออากาศร้อนชื้นทำให้เกิดอาการไอ ดังนั้นจึงควรเปิดหน้าต่าง/ประตูเพื่อระบายอากาศเป็นเวลาอย่างน้อย 5 นาทีต่อวัน
• สูดอากาศบริสุทธิ์ ถึงแม้ว่าอากาศข้างนอกจะเย็น แต่ถ้าเป็นไปได้ให้ออกไปข้างนอกและหายใจลึกๆ สักสองสามครั้ง โดยหายใจผ่านจมูกเพื่อกรองอากาศและทำให้อากาศที่หายใจเข้าไปอุ่นขึ้น
• ยกศีรษะให้สูงขึ้นในขณะนอนหลับ โดยอาจใช้หมอนซ้อนกันสองใบ หรือม้วนผ้าขนหนูแล้วนำไปวางไว้ใต้ที่นอน
• เรียนรู้วิธีการไอ (โดยการหายใจเข้าลึกกลั้นไว้ และพยายามไอออกให้แรง) ถ้าคุณไอเบาเกินไปคุณก็จะกำจัดเสมหะได้เพียงเล็กน้อย ซึ่งจะทำให้คุณไอมากยิ่งขึ้น
• หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
• ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรในพื้นที่ของคุณก่อนที่จะใช้ยาแก้ไอ พวกเขาจะประเมินอาการของคุณและช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงอาการแพ้อย่างรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้

วิธีกำจัดเสมหะด้วยวิธีรักษาตามธรรมชาติ

• ดื่มน้ำขิงและชากระวาน ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและลดอาการคัดจมูก รวมทั้งการมีเสมหะในช่วงอก
• อังหน้ากับไอน้ำร้อนผสมยูคาลิปตัส น้ำร้อนกับเกลือช่วยเปิดทางเดินหายใจ แต่ยูคาลิปตัสช่วยขับเสมหะได้อย่างยอดเยี่ยม
• กระเทียมและหัวหอมมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยละลายเสมหะเนื่องจากมีสารประกอบกำมะถัน ซึ่งช่วยบรรเทาอาการไอได้
• วางถุงประคบร้อนบนใบหน้าเหนือโหนกแก้มและรูจมูก ความร้อนจะช่วยเปิดทางเดินหายใจ และทำให้เสมหะถูกขับออกมาได้ง่ายขึ้น วิธีนี้มีประโยชน์มากสำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่ไม่สามารถใช้ยาได้ หากคุณเป็นไซนัสอักเสบให้ปรึกษาแพทย์ก่อน ไม่แนะนำให้ทำตามวิธีนี้
• ทำยาแก้ไอแบบโฮมเมด นำลูกฟิกซ์อบแห้ง หัวหอมสับ และมะนาวมาต้มรวมกัน ต้มจนน้ำลดลงครึ่งหนึ่ง เสร็จแล้วกรองกากออก เติมน้ำผึ้ง และเก็บไว้ในตู้เย็น ดื่มครั้งละหนึ่งช้อน สามครั้งต่อวัน
• การล้างจมูกตามศาสตร์โยคะ คุณรู้หรือไม่ว่าการหายใจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ฝึกโยคะ เมื่อมีเสมหะขวางทางเดินหายใจทำให้หายใจไม่สะดวกและทำให้การฝึกโยคะมีปัญหา จึงมีกาเล็ก ๆ สำหรับใส่น้ำเกลือล้างจมูกที่เรียกว่า กาเนติ
• วิธีล้างจมูกด้วยกาเนติให้โน้มตัวไปข้างหน้า เอียงศรีษะไปด้านใดด้านหนึ่ง จากนั้นสอดพวยกาเข้าไปในรูจมูก
  ข้างที่อยู่ด้านบน ค่อย ๆ เทน้ำเกลือช้า ๆ น้ำเกลือจะไหลออกมาจากรูจมูกอีกข้าง เมื่อเสร็จแล้วให้ทำแบบเดียวกันกับรูจมูกอีกข้าง โดยหายใจทางปากตามปกติ

 

Cr. kt.axahealthkeeper.com