“เด็กเล็ก” เสี่ยงรับฝุ่นพิษ PM 2.5 มากกว่าผู้ใหญ่

ผลกระทบเรื่องฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่เกิดแก่สุขภาพนั้น ถ้าเรามองว่าปัญหาในคนทั่วไปที่เป็นผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ รุนแรงแล้ว แต่รู้ไหมว่าหากเกิดแก่เด็ก ภัยนี้สามารถส่งผลร้ายแรงได้อีกหลายเท่า นั่นเพราะระบบภูมิคุ้มกันของเด็กนั้นไม่เหมือนผู้ใหญ่ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่ควรต้องเฝ้าระวังให้ลูก ๆ กันด้วย

ทำไมฝุ่นพิษ PM 2.5 จึงส่งผลร้ายต่อเด็ก
ระบบทางเดินหายใจของเด็ก ภูมิคุ้มกันที่จะป้องกันอันตรายของตัวเองจากสิ่งแปลกปลอมยังพัฒนาไม่เต็มที่ ดังนั้น เด็กจะมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากเด็กหายใจเร็ว เวลาเด็กออกไปวิ่งเล่น อาจเทียบเท่ากับผู้ใหญ่ออกกำลังกายหนัก ๆ ได้ มีโอกาสที่จะรับฝุ่นละอองขนาดเล็กเข้าสู่ร่างกายได้มาก และในหญิงตั้งครรภ์อาจจะทำให้เด็ก มีน้ำหนักตัวน้อย หรือเจริญเติบโตช้าได้ด้วย

วิธีป้องกันภัยฝุ่นพิษ PM 2.5 ในเด็กได้ดีที่สุด

1. สวมหน้ากากอนามัย
   การสวมหน้ากากอนามัย N95 ควรสวมทั้งในเด็กเล็ก และแม่ท้อง เพราะหน้ากาก N95 มีประสิทธิภาพป้องกันและกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ดีกว่า แนะนำให้ใส่แบบมีวาล์วเปิด-ปิดจะหายใจได้สะดวกกว่า และหากเป็นเด็กก็ควรเลือกแบบสำหรับเด็กโดยเฉพาะ จึงจะสามารถครอบกระชับได้ตามกรอบหน้าของเด็กอย่างแนบชิด
2. งดกิจกรรมกลางแจ้ง
   แม่ท้องและเด็กเล็กไม่ควรออกไปไหนมาไหนในสภาพอากาศที่มีแต่ฝุ่นควัน เด็กเล็กหายใจเร็ว สามารถนำเอาฝุ่นละอองเข้าปอดได้มากกว่าผู้ใหญ่ ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการอยู่ในบ้าน และใช้วิธีลดฝุ่นละอองในบ้าน โดยการปิดหน้าต่าง-ประตูให้มิดชิด เช็ดถูรอบบริเวณบ้านด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกแทนการใช้เครื่องดูดฝุ่น รวมถึงใช้เครื่องฟอกอากาศที่ใช้แผ่นกรองอากาศ HEPA (High Efficiency Particulate Air Filter) เพราะสามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กได้ถึงขนาด 0.3 ไมครอน

สำหรับสถิติเด็กแรกเกิดจากคุณแม่ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน พบว่านอกจากมีเด็กคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน และเจริญเติบโตช้าผิดปกติแล้ว เด็กบางคนยังมี DNA ในเซลล์ชื่อว่า เทโลเมียร์ (Telomere) สั้นกว่าปกติ ซึ่ง DNA ตัวนี้ทำหน้าที่กำหนดอายุขัย โดยจะแตกตัวสั้นลงทุกครั้งที่เราโตขึ้น และอายุขัยของเราจะสิ้นสุดลง เมื่อเจ้าเทโลเมียร์สั้นกุดจนแตกตัวไม่ได้อีก นั่นหมายความว่าเด็กที่เทโลเมียร์สั้นกว่าปกติ ก็จะมีอายุขัยสั้นกว่าคนทั่วไป แถมร่างกายยังอ่อนแอ อาจเต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บอย่าง โรคหัวใจ เบาหวาน หรือมะเร็งอีกด้วย

ดังนั้นคุณแม่ควรระมัดระวังและดูแลกิจกรรมของลูก ๆ อย่างเคร่งครัดในช่วงนี้  ทางเลือกที่ดีที่สุดคือเลี่ยงให้มากที่สุด และอย่าลืมพกพาตัวช่วยดี ๆ อย่าง ‘อควา มาริส’ ที่สามารถช่วยให้ผิวโพรงจมูกชุ่มชื้น ลดความเสี่ยงในการเกิดอาการคัน คัดจมูก ลดการระคายเคือง ฆ่าเชื้อโรคที่เล็ดรอดเข้ามาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังอ่อนโยนต่อเด็กเพราะสกัดจากน้ำทะเลเอเดรียติก

 

 

Cr. Kapook, Workpointnews