ไขข้อสงสัย ทำไมเปียกฝนแล้วต้อง เป็นหวัด

ไขข้อสงสัย ทำไมเปียกฝนแล้วต้อง เป็นหวัด

หลายคนคงเคยสงสัย ทำไมเปียกฝนแล้วต้อง เป็นหวัด ทุกที ในเมื่อฝนก็คือน้ำ เราอาบน้ำทุกวันก็ไม่เคย เป็นหวัด ซักที วันนี้เราจึงมาไขข้อสงสัยกันว่าตากฝนแล้วทำไมต้องเป็นหวัด

ทำไมตากฝนแล้วจึง เป็นหวัด

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง วันนึงมี 3 ฤดูเลยก็มี เช้าหนาว กลางวันร้อน เย็นฝนตก มีโอกาสสูงนะคะที่เราจะ เป็นหวัด ไม่สบายกันได้

เวลาตากฝน โดยเฉพาะเวลาศีรษะเปียกฝน แล้ววันต่อมา เริ่มมีอาการของหวัด เช่น มีอาการจาม คัดจมูก หรือมีน้ำมูก วันนี้เรามีคำอธิบาย และมีคำแนะนำเวลาตากฝนมาฝาก

โรคหวัด ก็คือ โพรงจมูกอักเสบจากการติดเชื้อ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักจะเกิดจากไวรัส มีไวรัสเป็นร้อยชนิด ที่ทำให้เกิดไข้หวัดได้ ไวรัสเหล่านี้ กระจายฟุ้งอยู่ในอากาศ แล้วก็ตกลงอยู่ทีพื้น หรือเกาะอยู่ตามฝุ่น ไวรัสเหล่านี้ สามารถมีชีวิตอยู่ได้นาน ในช่วงปกติ เราก็จะสัมผัสกับไวรัสเหล่านี้อยู่บ้าง แต่เนื่องจากปริมาณมีไม่สูง รวมทั้งภูมิต้านทานของร่างกาย และสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เราจึงไม่เป็นโรคหวัด ก่อนฝนตก มักจะมีกระแสลมที่แรง ลมเหล่านี้ จะพัดให้ไวรัสฟุ้งกระจายปริมาณมาก หากเราอยู่ในบริเวณนั้น ก่อนฝนตก โอกาสที่จะสัมผัสไวรัสในปริมาณมากก็มีมากขึ้น ดังนั้น พยายามอย่าอยู่ในที่โล่งแจ้งโดยเฉพาะเวลาก่อนฝนตก หรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาจใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากปิดจมูก ในช่วงเวลานั้นก็ได้ค่ะ

ไวรัสไม่ได้เข้าทางศีรษะแต่เราเป็นหวัดได้ไงนะ ?

หากเราตากฝน ศีรษะของเราก็จะเปียกฝน เชื้อโรคไม่ได้เข้าทางศีรษะนะคะ แต่การที่ศีรษะเปียกฝน จะมีผลทำให้อุณภูมิที่พื้นผิวของเยื่อบุจมูกลดต่ำลงประมาณ 1 - 2 องศาเซลเซียส ซึ่งอุณหภูมิระดับนี้ เหมาะสมสำหรับการแบ่งตัวของเชื้อไวรัสที่ตกค้างอยู่ในช่องจมูก ประกอบกับการสัมผัสเชื้อไวรัสปริมาณมากช่วงก่อนฝนตก ก็เลยทำให้มีไวรัสจำนวนมากบริเวณเยื่อบุจมูก ภูมิต้านทานของร่างกาย จึงไม่อาจต้านทานเชื้อเหล่านี้ได้อีกต่อไป ก็เลยเกิดการอักเสบของเยื่อบุจมูก เกิดอาการบวมของเยื่อบุจมูก ทำให้คัดจมูก รวมทั้งเกิดการสร้างสารคัดหลั่งมากขึ้น ซึ่งก็คือ “น้ำมูก” นั่นเอง หากเชื้อไวรัสลุกลามไปที่ลำคอ ก็จะทำให้เกิดคออักเสบตามมาได้

นอกจากศีรษะที่เปียกฝน ที่มีผลต่ออุณหภูมิในจมูกแล้ว อุณหภูมิบริเวณมือและเท้า ก็มีผลด้วยเช่นเดียวกัน การที่รองเท้าเราเปียกน้ำ และต้องแช่อยู่ในนั้นนานๆ ก็มีผลทำให้อุณภูมิในจมูกลดลง นำไปสู่อาการเป็นหวัดได้

วิธีการป้องกัน ไม่ให้ เป็นหวัด เวลาศีรษะเปียกฝน

  • หลบฝนในที่ร่มเสียก่อน รอจนฝนหยุด แล้วค่อยเดินทางต่อ
  • ใช้ร่มเพื่อบังศีรษะของเราไว้
  • หากศีรษะเปียกฝน รีบเช็ดให้แห้งเมื่อมีโอกาส ถ้าจะให้ดี สระผมไปเลยก็ได้ แล้วเช็ดหรือเป่าให้แห้งโดยเร็ว
  • รีบทำให้ร่างกายอบอุ่น
  • อาจแช่เท้าทั้งสองข้างในน้ำอุ่น เพื่อช่วยเปลี่ยนอุณภูมิที่พื้นผิวของจมูก ทำให้ไม่เหมาะต่อการแบ่งตัวของเชื้อโรค
  • รับประทานผลไม้ ที่มีวิตามินซีสูงๆ เช่น ส้ม วิตามินซี จะช่วยเสริมสร้างเซลและเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายไป ช่วยป้องกันการเป็นหวัดได้

วิธีการง่าย ๆ เหล่านี้ ก็ทำให้คุณไม่เป็นหวัดง่าย ๆ ในหน้าฝนนี้ค่ะ

สรุปง่าย ๆ คือ

  • ก่อนฝนตกมีลมพัดไวรัสฟุ้งกระจาย
  • ไวรัสเกาะที่โพรงจมูก
  • อากาศเย็น หัว มือ เท้าเปียก
  • อุณหภูมิในโพรงจมูกลดลง
  • ไวรัสแบ่งตัวมากขึ้น
  • ทำให้เกิดหวัด

หากลูก เป็นหวัด แล้ว พาลูกไปพบแพทย์นะคะ ไม่ควรซื้อยาเองเด็ดขาด เพราะอาจะมีปัญหาแพ้ยา รักษาไม่ตรงตามอาการ ยาบางตัวแรงเกินไปสำหรับเด็กนะคะ ควรคำนึงถึงข้อนี้ไว้ด้วย

 

ที่มา นมพ่อแบบเฮฟวี่
ภาพประกอบจาก images-free.net

 

 

Recent Post

icon-%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b9%87%e0%b8%9a-aqua-maris-05-9-598icon-%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b9%87%e0%b8%9a-aqua-maris-05-9-599icon-%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b9%87%e0%b8%9a-aqua-maris-05-9-5910icon-%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b9%87%e0%b8%9a-aqua-maris-05-9-5911icon-%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b9%87%e0%b8%9a-aqua-maris-05-9-5912icon-%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b9%87%e0%b8%9a-aqua-maris-05-9-5913icon-%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b9%87%e0%b8%9a-aqua-maris-05-9-5914

Sharing

Facebooktwitterredditpinterestlinkedinmail

Follow Us

Facebooktwitterlinkedinrssyoutube