“ไซนัสอักเสบเฉียบพลัน” กับ “ไซนัสอักเสบเรื้อรัง” แตกต่างกันอย่างไร
การอักเสบมักมีเชื้อก่อโรคและปัจจัย ดังนี้
1. ไซนัสอักเสบเฉียบพลัน
มักเป็นภาวะแทรกซ้อนของไข้หวัด การติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนต้นชนิดอื่นๆ และโรคหวัดภูมิแพ้ เชื้อก่อโรค
อาจเป็นเชื้อไวรัสกลุ่มเดียวกับที่ทำให้เกิดไข้หวัด (มีอาการเป็นหวัด น้ำมูกไหล นานกว่า 7-10 วัน และหายได้เอง
เป็นส่วนใหญ่) หรือกลุ่มเชื้อแบคทีเรีย (ทำให้มีเสมหะเป็นหนอง) ส่วนน้อยอาจเกิดจากเชื้อรา (ซึ่งถ้าพบในผู้ป่วย
เบาหวานหรือเอดส์ มักมีอันตรายร้ายแรง
2. ไซนัสอักเสบเรื้อรัง
ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียหลายชนิดที่ต่างจากที่พบในไซนัสอักเสบเฉียบพลันส่วนน้อยอาจเกิดจากเชื้อรา
ซึ่งฝังตัวอยู่ในซนัส กระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ แล้วเกิดการอักเสบของไซนัสตามมา ซึ่งสามารถพบในคนที่มี
ความต้านทานโรคแข็งแรงเป็นปกติทั่วไป
ไซนัสอักเสบเรื้อรังมักเป็นผลแทรกซ้อนจากไซนัสอักเสบเฉียบพลันที่ไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง นอกจากนี้
ยังอาจเกิดจากปัจจัยอื่นๆ เช่น โรคหวัดภูมิแพ้เรื้อรัง ริดสีดวงจมูก เนื้องอกในโพรงจมูกหรือไซนัส ผนังกั้นจมูกคด
การติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนต้นซ้ำซาก การสูบบุหรี่ มลพิษทางอากาศ โรคกรดไหลย้อน (หูรูดปลายหลอด
อาหารเสื่อม ทำให้มีน้ำย่อยซึ่งเป็น กรดไหลย้อนขึ้นมาที่ไซนัส เวลานอนตอนกลางคืน) โรคฟันและช่องปากเรื้อรัง
ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ (เช่น เบาหวาน เอดส์) เป็นต้น
อาการ
ไซนัสอักเสบเฉียบพลัน
ในผู้ใหญ่ มักมีอาการปวดใบหน้าบริเวณไซนัสที่อักเสบ (เช่น ปวดที่บริเวณหัวตา หน้าผาก โหนกแก้ม รอบๆ กระบอกตา
หรือหลังกระบอกตา บางรายอาจรู้สึก คล้ายปวดฟัน ตรงฟันซี่บน) อาจปวดเพียงข้างเดียวหรือ 2 ข้างก็ได้ อาการปวด
มักเป็นมากเวลาเช้าหรือบ่าย เวลาก้มศีรษะหรือเปลี่ยนท่า มักมีอาการคัดแน่นจมูก พูดเสียงขึ้นจมูก มีน้ำมูกเป็นหนอง
ออกข้นเหลืองหรือเขียวหรือมีเสมหะข้นเหลืองหรือเขียวไหลจากด้านหลังจมูกลงในคอ ต้องคอยสูดหรือขากออก อาจมี
อาการปวดศีรษะ มีไข้ อ่อนเพลีย เจ็บคอ ปวดหู ไอ หายใจมีกลิ่นเหม็น ความรู้สึก ในการรับรู้กลิ่นหรือรสชาติลดลง
ในเด็ก อาการมักไม่ชัดเจนเท่าผู้ใหญ่ อาจมีอาการเป็นหวัดนานกว่าปกติ กล่าวคือมีน้ำมูก (ใสหรือข้นเป็นหนองก็ได้)
และไอนานกว่า 10 วัน มักจะไอทั้งกลางวันและกลางคืน อาจมีไข้ต่ำๆ และหายใจมีกลิ่นเหม็นร่วมด้วย เด็กบางรายอาจ
แสดงอาการเป็นหวัดรุนแรงกว่าปกติ เช่น มีไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส น้ำมูกข้นเป็นหนอง ปวดที่บริเวณใบหน้า
หลังตื่นนอนสังเกตเห็นอาการบวมรอบๆ ตา
ไซนัสอักเสบเรื้อรัง
มักมีอาการต่อเนื่องทุกวันนานเกิน 90 วัน โดยในผู้ใหญ่มักมีอาการคัดจมูก มีเสมหะข้นเหลืองหรือเขียวไหลจากด้านหลัง
จมูก ลงในคอหายใจมีกลิ่นเหม็น ความรู้สึกในการรับรู้กลิ่นลดลง ส่วนใหญ่มักไม่มีไข้และอาการปวดไซนัสแบบที่พบใน
ไซนัสอักเสบเฉียบพลันในเด็กมักมีอาการไอ น้ำมูกไหล จาม หายใจมีกลิ่นเหม็น มีโรคติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนต้น
หรือหูชั้นกลางอักเสบ
การวินิจฉัย
แพทย์มักจะวินิจฉัยจากอาการแสดงเป็นสำคัญ ในกรณีที่เป็นไซนัสอักเสบเฉียบพลัน อาจใช้นิ้วกดหรือเคาะตรง
บริเวณใบหน้าตรงตำแหน่งที่ปวด (ที่พบได้บ่อย ก็คือบริเวณใต้ตา หรือโหนกแก้ม) จะพบว่ามีอาการเจ็บ ในกรณีที่
อาการไม่ชัดเจนหรือมีภาวะอื่นร่วมด้วย หรือสงสัยเกิดจากสาเหตุอื่น อาจต้องทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น ตรวจ
อัลตราซาวนด์เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ใช้กล้องส่องตรวจไซนัสและกระเพาะอาหาร
ทำการเจาะไซนัสนำหนองไปตรวจหาเชื้อ เป็นต้น
Cr.ไทยรัฐ
ภาพประกอบจาก womensrunning.competitor