9 วิธีเอาชนะโรคภูมิแพ้ด้วยตัวเอง

การเอาชนะโรคภูมิแพ้นั้นแบ่งออกเป็นหลายรูปแบบ ตามประเภทของอาการภูมิแพ้ ซึ่งส่วนมากมักเน้นไปที่แนวทางการปรับความสมดุลของร่างกายแบบองค์รวม เพื่อที่จะเสริมสร้างให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างเหมาะสม สามารถต้านทานอาการต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้นั่นเองค่ะ

1. ควบคุมอาหาร
   เรื่องของโภชนาการก็มีส่วนสัมพันธ์กับภูมิแพ้เป็นอย่างมาก เพราะอาหารสามารถทำได้ทั้งเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง และอาหารบางอย่างอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ในกลุ่มภูมิแพ้อาหาร อย่างไรก็ตามควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผักและผลไม้เพราะประกอบด้วยแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ หรือจะหันมารับประทานอาหารคลีน ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ลดความเสี่ยงภูมิแพ้ได้ด้วย
   
2. ลดการสะสมฝุ่นละออง
   ฝุ่นละอองทั้งที่เรามองเห็นและมองไม่เห็น ล้วนมีตัวการก่อโรคตัวร้ายอย่าง ไรฝุ่น ซึ่งสามารถแพร่พันธุ์ได้ทั่วบริเวณในบ้านของเราก็ว่าได้ ดังนั้นลดการสะสมของฝุ่นให้น้อยที่สุด หลีกเลี่ยงเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านที่เหป็นพรม กำมะหยี่ ผ้าขน ดอกไม้แห้ง เป็นต้น
3. ว่าด้วยอากาศ
   ไม่ว่าจะปิดหน้าต่าง หรือเปิดทิ้งไว้เพื่อให้อากาศภายนอกไหลเข้ามา ก็ถือว่ามีความเสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้พอ ๆ กัน ดังนั้นใครที่มีอาการคันจมูก จามง่าย ไอง่าย โดยไร้ไข้ ก็สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าคุณอาจเป็นภูมิแพ้ในระยะแรกเริ่ม ดังนั้นการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศควรมีความพิถีพิถัน ให้เลือกรุ่นที่มีประสิทธิภาพในการกรองอากาศ ดักจับเชื้อโรค รวมไปจนถึงทำความสะอาดไส้กรองเมื่อถึงกำหนดเวลาที่เหมาะสมด้วย หรือจะหาซื้อเครื่องฟอกอากาศมาช่วยอีกแรงก็ถือว่าเป็นทางออกที่ดี สำหรับรายที่เป็นภูมิแพ้เกสรดอกไม้ อาจต้องงดการจัดดอกไม้ หรืองดเปิดหน้าต่างทิ้งไว้เป็นเวลานาน ๆ ด้วย
4. ฆ่าเชื้อโรค
   ควรเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดบริเวณที่อับชื้น ที่มีฤทธิ์ในการทำลายเชื้อราผสมอยู่ด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้เช่นกัน และสำหรับบางคนที่มีอาการเฉพาะมาก ๆ อย่างการแพ้สารเคมีที่ใช้ทำความสะอาดด้วย ก็แนะนำให้ลองหาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทางเลือกที่เป็นส่วนผสมแนวออแกนิกส์ เป็นต้น
5. หลีกเลี่ยงสัตว์เลี้ยง
   ทางที่ดีคือการหลีกเลี่ยงสัตว์เลี้ยงแต่แรก เพราะในสัตว์เลี้ยงนั้นอาจก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ผู้ที่แพ้สัตว์เลี้ยง มักจะเกิดจากไรฝุ่น เห็บ หมัด และโปรตีนบางชนิดที่อยู่บนตัวสัตว์ แต่สำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์อยู่ก่อนแล้ว ก็หมั่นทำความสะอาดและแปรงขน ดูแลให้ดี ๆ เพื่อให้ทั้งสัตว์เลี้ยงแสนรักและคนอยู่ร่วมกันได้แบบปลอดภัยต่อสุขภาพ
6. หน้ากากอนามัยช่วยได้
   หน้ากากอนามัยคือหนทางการป้องกันภูมิแพ้เมื่อวันที่เราต้องออกไปเผชิญมลภาวะ เพราะทุกวันไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาเรียน หรือทำงาน เราก็ต้องเดินทางตลอด และไม่อาจหลีกเลี่ยงฝุ่นควันตามท้องถนนได้เลย ยิ่งประเทศไทยด้วยแล้ว นอกจากควันรถ เรายังเจอฝุ่นจากโครงการก่อสร้าง ซ่อมทางต่าง ๆ ตลอดเวลา ดังนั้นสวมหน้ากากอนามัยไว้จะดีที่สุด
7. ออกกำลังกาย
   การออกกำลังกายคือแนวทางการสร้างสุขภาพดีอย่างได้ผล ไม่จำเป็นต้องหักโหมมากก็ได้ เพียงสละเวลาอย่างน้อยวันละ 30 นาที วิ่งหรือเดินไว ๆ หรือหากใครอยากหวังผลเรื่องดูแลรูปร่างด้วยก็ลองหาเวลาให้เป็นกิจจะลักษณะไปเลย อย่างการออกกำลังกายครั้งละ 1 ชั่วโมง ประมาณ 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ เพียงเท่านี้ก็รักษาสุขภาพให้สมดุลแบบองค์รวมได้แล้ว
8. เริ่มต้นที่ห้องนอน
   หากคิดง่าย ๆ ว่าวันหนึ่งเราต้องนอนประมาณ 8 ชั่วโมง ก็เท่ากับว่าห้องนอนคือสถานที่ที่เราต้องอยู่เป็นเวลา ¼ ของชีวิตเลยทีเดียว ดังนั้นการต้องอยู่ในที่ใดที่หนึ่งเป็นระยะเวลานาน ๆ หายใจเข้า-ออก ไม่ได้ทำกิจกรรมอื่นใดอีก ความสะอาดควรมาเป็นอันดับหนึ่ง ควรทำความสะอาดเปลี่ยนผ้าปูที่นอนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เลือกใช้ผ้าปูประเภทผ้าไหมหรือซาติน จะลดความเสี่ยงหมักหมัมของไรฝุ่นได้ หรืออาจเพิ่มการป้องกันอีกขั้นด้วยการเลือกที่นอนแบบกันเชื้อโรคไปเลย
9. บรรเทาอาการอย่างตรงจุด
   สเปรย์พ่นจมูกคือตัวเลือกที่น่าสนใจเมื่อคุณมีอาการภูมิแพ้ขึ้นมา ดังนั้นควรเลือกตัวยาที่ให้ผลทันที มีฤทธิ์อ่อนโยน เป็นต้น ‘อควา มาริส’ ตัวช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก โรคหวัด อาการภูมิแพ้ และเสริมสร้างสุขอนามัยที่ดีให้แก่โพรงจมูก มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส สามารถบำบัดอาการโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่จำกัดระยะเวลา และสามารถใช้ได้หลายครั้งต่อวัน ที่สำคัญยังสามารถใช้ร่วมกับยารับประทานหรือยาที่ออกฤทธิ์กับเยื่อบุจมูกโดยเฉพาะได้อีกด้วย จึงเหมาะที่จะเป็นผู้ช่วยในชีวิตประจำวันที่สุด

Cr. goodlifeupdate