โรคภูมิแพ้ รู้ทันป้องกันได้

ขึ้นชื่อว่า ‘โรคภูมิแพ้’ นอกจากจะก่อความทุกข์ให้ร่างกายแล้ว ยังก่อความรำคาญให้กับเราอีกด้วยลองไปทำความรู้จักกับโรคภูมิแพ้ ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรค อาการของโรค รวมถึงวิธีป้องกันและดูแลตัวเอง ยามเมื่อเป็นภูมิแพ้ ซึ่งสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร แนะนำมาสักหน่อยดีกว่า
โรคภูมิแพ้ เกิดจากปฏิกิริยาของภูมิต้านทานของร่างกายที่ตอบสนองต่อสิ่งที่มากระตุ้น (สารก่อภูมิแพ้) ไวกว่าคนปกติทั่วไป ทำให้มีอาการภูมิแพ้เกิดขึ้น โรคนี้เป็นโรคเรื้อรังและสามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ได้
ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรค
ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ มีสาเหตุมาจากกรรมพันธุ์และสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ
1. กรรมพันธุ์ บุคคลที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้ จะมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้มากขึ้น
2. การได้รับสารก่อภูมิแพ้บ่อย ๆ เช่น ฝุ่นบ้าน ไรฝุ่น ขนหรือรังแคสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสุนัข แมว ละอองเกสรดอกไม้ เศษซากแมลงสาบ เชื้อรา อาหารและยาบางชนิด เช่น นมวัว ไข่ขาว อาหารทะเล เป็นต้น
3. ปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ ได้แก่ มลพิษทางอากาศ สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ควันไอเสียรถยนต์ ควันบุหรี่ ควันไฟ ความเครียด และร่างกายอ่อนเพลีย เป็นต้น
อาการของโรค
โรคภูมิแพ้ทำให้มีอาการเกิดขึ้นกับร่างกายได้หลายระบบ ซึ่งอาจจะแตกต่างกันไปแต่อาการที่พบบ่อย ได้แก่
• โรคหอบหืด ทางเดินหายใจบวม ตีบ แคบลง หายใจเสียงดัง หอบ แน่นหน้าอก หายใจ ลำบาก อาจเกิดอาการตอนกลางคืน เวลาออกกำลังกาย หรือเมื่อเป็นหวัด
• โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือแพ้อากาศ คัน คัดจมูก จาม น้ำมูกไหล อาจเกิดเป็นช่วงฤดู หรือเป็นตลอดทั้งปีก็ได้
• โรคผื่นผิวหนังจากภูมิแพ้ คัน ผิวหนังแดงเรื้อรัง มักพบบ่อยในเด็กเล็ก ๆ
• ลมพิษ คัน บวม ผิวหนังนูนหนา เกิดจากการแพ้อาหารหรือยาบางชนิด การติดเชื้อไวรัส หรืออาจไม่ทราบสาเหตุ
• การแพ้อาหาร อาจมีอาการหลายระบบร่วมกัน เช่น ปวดท้อง อาเจียน ท้องเสีย ผื่น ลมพิษ คัดจมูก เยื่อบุตาอักเสบเป็นต้น
การป้องกัน
• ควรเลี้ยงทารกด้วยนมแม่อย่างเดียวเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือน
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือการได้รับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น เชื้อรา แมลงสาบ ควันบุหรี่ สุนัข และแมว เป็นต้น
• ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ป้องกันการติดเชื้อโรคต่าง ๆ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ
ดูแลตัวเองอย่างไร
• ไม่ควรเลี้ยงสัตว์ที่มีขน เช่น สุนัข แมว และนกในบ้าน
• จัดห้องนอนให้โล่ง สะอาด งดใช้พรม ไม่ใช้เครื่องนอนที่ทำมาจากนุ่น
• ไม่ควรเก็บสะสมหนังสือไว้ในห้องนอน เพราะหนังสือส่วนใหญ่มักเก็บฝุ่นไว้
• ทำความสะอาดที่นอน หมอน ผ้าห่ม เป็นประจำ ควรซักผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ด้วยน้ำร้อนอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส อย่างน้อย 30 นาที และตากแดดให้แห้ง
• ซักผ้าม่าน ดูดฝุ่น และเช็ดถูทำความสะอาดพื้น เครื่องเรือน เพื่อขจัดฝุ่นละอองเป็นประจำ
• ใช้ผ้าปิดจมูกเวลาทำความสะอาดห้อง ไม่ควรนำดอกไม้สดหรือแห้งมาไว้ในบ้าน ควรกำจัดใบไม้ที่ร่วงและเศษหญ้าที่ชื้นแฉะให้หมด
• กำจัดเศษอาหารและขยะต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแมลงสาบ
• หลีกเลี่ยงสิ่งที่ระคายเคืองต่อเยื่อจมูก เช่น ควันบุหรี่ ควันท่อไอเสีย สารเคมี และฝุ่นละออง
• ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รู้จักผ่อนคลายความเครียด และพักผ่อนให้เพียงพอ
• หากเกิดอาการภูมิแพ้มาก ๆ ควรพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง
เรื่อง : ภาดนุ
ภาพ : เอพี